การกลั่นแกล้ง (Bully) ถือเป็นปัญหาความรุนแรงที่พบบ่อยและเริ่มต้นตั้งแต่ในรั้วโรงเรียนทั่วโลก แต่จะหนักจะเบาก็คงขึ้นกับ "โรงเรียน" "คุณครู" "เพื่อน" "สังคม"​ และที่แน่ ๆ คือ "ครอบครัว" ของทั้งเด็กที่ถูกแกล้งและเด็กที่ไปแกล้งคนอื่น

จากข่าว "มาเฟีย ป. 1 จนถึง ป.5 "​ ที่ไถเงินเพื่อนมาเป็นเวลายาวนาน และวันหนึ่งไถเงินไม่ได้เลยเอาไม้ "แทง" เพื่อนซะเลย (OMG !) ซึ่งในอดีตมีทั้งกัดคนอื่น เอาของไปซ่อน และมีพฤติกรรมรุนแรงอีกหลายอย่าง ย้ำ ! นี่คือเด็กประถม 1 (ปัจจุบัน ป.5)

ยังไม่พอ ครูรู้ว่ามีการไถเงินด้วย (จากคำสัมภาษณ์คุณพ่อ)​ และในวันเกิดเหตุพอเกิดแผลสิ่งที่ได้มาคือ พลาสเตอร์ปิดแผลมาแปะแผล จนคุณพ่อมาเห็น + ลูกบ่นปวดแผลตอนช่วงเย็น ความเลยแตก 

แน่นอน พฤติกรรมของเด็กที่แกล้งคนอื่น คือ "ปัญหา" แน่ ๆ จะเกิดจากครอบครัว การเลี้ยงดู หรือจริง ๆ เด็กมีโรคที่เพิ่มโอกาสการมีพฤติกรรมรุนแรง เช่น โรคสมาธิสั้น ฯลฯ 

ทำอะไรไปแล้วบ้าง ?

เพื่อนคนอื่น รุ่นพี่ ที่ "เห็น" เหตุการณ์ทั้งหมดมาตลอด (ไม่รู้นานแค่ไหน) และที่สำคัญที่สุด "คุณครู" ที่ดูเหมือนจะทราบเหตุทั้งหมด 

ทำอะไรไปแล้วบ้าง ?

หรือตีซื่อ เฉยกันหมด

และอย่าลืมมองย้อนกลับมาที่รอบตัวของเด็กน้อยที่โดนรังแก ว่ามีความเสี่ยงในการโดนแกล้งไหม เช่น ไม่มีเพื่อน แกล้งคนอื่นก่อน หรืออีกปัจจัยที่คงแก้ไขยาก คือ "ลักษณะน่าแกล้ง" (คงพอนึกออกใช่ไหมครับ แบบไหนเรียกว่าน่าแกล้ง) ... ครอบครัว คุณครู พอเห็นเรื่องพวกนี้ไหม 

ลูกเคยเล่าเรื่องที่ รร. ให้ฟังบ้างไหม 

มีเวลาฟังลูกเล่าเรื่องที่ รร. บ้างไหม 

หากลูกไม่เล่า ... ทำไมถึงไม่เล่า ? อันนี้น่าสนใจ

มันต้องปรับกันหมดครับ เพราะการแกล้งกันในโรงเรียนจะเกิด ถ้าผู้แกล้ง แกล้งคนอื่นได้โดยไม่ได้รับผล คนรอบข้างเห็น แต่ไม่ได้ใส่ใจ ไม่บอกคุณครู หรือคุณครูก็ตีเนียนไม่รู้ไปด้วยกัน และคนถูกแกล้ง ก็ "เงียบ" รับกรรมกันไป ไม่บอกใครแม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ 

ถ้าพ่อแม่เห็นแล้วยังเฉยอีกก็คงจบครับ 

ลูกแย่แน่ ๆ ... 

ตามข่าวนี้คุณพ่อให้สัมภาษณ์ว่า "ตนไปรับลูกหลังเลิกเรียน สังเกตเห็นหลังเท้าขวามีพลาสเตอร์ติดอยู่ และมีคราบเลือดอาบไปทั่ว แต่ยังไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเป็นแผลถลอกจากความซุกซน คณะครูก็ไม่ได้แจ้งเรื่องใดๆด้วย พอถึงบ้านลูกบอกปวดแผลและเท้าบวม จึงเปิดพลาสเตอร์ออกดูก็ต้องตกใจ เพราะแผลลึกและยาวกว่า 2 ซม. ต้องพาไปให้ล้างแผลกับเย็บ 2 เข็ม"

เห็นอะไรที่น่าเป็นกังวลบ้างไหมครับกับประโยคนี้